:
ยินดีต้อนรับเข้าสู่เทศบาลตำบลดู่ใต้ // ติดต่อสอบถาม: โทรศัพท์ 054-600711 อีเมล : saraban@dutai.go.th

ชื่อ: ประเด็นระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2566

16 ส.ค. 2566

รายละเอียด:

กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นขอชี้แจงในประเด็นดังกล่าว ดังนี้
1. การปรับระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2566 ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2566 เนื่องจากคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะพิเศษ) เรื่องเสร็จที่ 611/2564 ได้มีคำวินิจฉัย เรื่อง การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุที่มีความซ้ำซ้อนกับสวัสดิการอื่น ว่า ระเบียบคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ และระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2552 ที่กำหนดคุณสมบัติผู้มีสิทธิรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุจะต้องไม่เป็นผู้ได้รับสวัสดิการอื่น จากหน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้น ขัดหรือแย้งต่อพระราชบัญญัติผู้สูงอายุ พ.ศ. 2546 และไม่สอดคล้องกับบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ในการนี้ กระทรวงมหาดไทยได้ปรับแก้คุณสมบัติโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้สอดคล้องกับบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ทำให้ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพ มีโอกาสได้รับการช่วยเหลือเพิ่มเติม โดยระเบียบดังกล่าวจะไม่กระทบต่อผู้สูงอายุที่ได้รับเงินเบี้ยยังชีพอยู่ก่อนวันที่ระเบียบใช้บังคับ ซึ่งปัจจุบัน มีผู้สูงอายุรับเงินเบี้ยยังชีพกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประมาณ 12 ล้านคน จะคงมีสิทธิรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุต่อไปโดยไม่ต้องไปยืนยันตัวตนหรือดำเนินการเพิ่มเติมแต่อย่างใด
2. ผู้มีสิทธิรายใหม่ที่จะมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอำนวยความสะดวกโดยแจ้งไปยังผู้มีสิทธิ หากมีความประสงค์จะรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุให้แนบเอกสารหลักฐานข้อมูลเพื่อยืนยันสิทธิไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยผู้มีสิทธิรายใหม่จะต้องมีคุณสมบัติตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยฯ ข้อ 6 (4) กำหนดว่าต้องเป็นผู้ไม่มีรายได้หรือมีรายได้ไม่เพียงพอแก่การยังชีพตามที่คณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติตามกฎหมายว่าด้วยผู้สูงอายุกำหนด (ในระหว่างที่คณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ ยังมิได้มีการกำหนดคุณสมบัติของผู้มีสิทธิ ตามข้อ 6 (4) ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใช้คุณสมบัติผู้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุตามระเบียบเดิมไปพลางก่อน)
3. การปรับแก้คุณสมบัติผู้มีสิทธิรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2566 ซึ่งแก้ไขคุณสมบัติดังกล่าวส่งผลให้มีจำนวนผู้สูงอายุที่มีสิทธิรับเบี้ยยังชีพไม่น้อยกว่าเดิม เนื่องจากผู้สูงอายุที่ได้รับสวัสดิการจากหน่วยงานรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หากมีรายได้ไม่เพียงพอตามที่คณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติกำหนดก็สามารถขอรับเงินเบี้ยยังชีพได้ด้วย
4. ตามบันทึกสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เรื่องที่ 611/2564 ได้กล่าวไว้ว่า คณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ มีความเห็นว่า การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ตามมาตรา 11 (11) แห่งพระราชบัญญัติผู้สูงอายุ พ.ศ. 2546 กำหนดให้ผู้สูงอายุได้รับการคุ้มครอง การส่งเสริม และการสนับสนุนในด้านการจ่ายเงินเบี้ยยังชีพเป็นรายเดือนอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม กล่าวคือ คำว่า “เบี้ยยังชีพ” จึงไม่ใช่เงินบำนาญ แต่เป็นการช่วยเหลือตามความจำเป็นโดยไม่ต้องจ่ายในลักษณะถ้วนหน้า และคำว่า “เป็นธรรม” สามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่สมควรได้รับได้

รูปภาพ/ไฟล์เอกสาร